การขับเกียร์ออโต้ให้ประหยัดน้ำมัน
ปกติ เกียร์ออโต้จะเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงกว่าเกียร์ธรรมดาอยู่เล็กน้อยครับ เป็นเพราะว่า ระบบการส่งกำลังมันไม่เหมือนกันนั่นเอง
- เกียร์ธรรมดา มีส่วนที่สัมผัสกันโดยตรงคือ แผ่นคลัช ทำให้การส่งกำลังเป็นไปอย่างต่อเนื่องและสูญเสียกำลังน้อยกว่า
- เกียร์ออโต้ฯ ส่งผ่านกำลังแตกต่างสักหน่อย โดยจะผ่าน ทอร์ค คอนเวอร์เตอร์ ซึ่งเป็นลักษณะคล้ายๆ ใบพัดสอบใบหันหน้าเข้าหากัน แล้วมีน้ำมันเกียร์คอยเป็นตัวช่วยปั่นส่งต่อกำลังถึงกันครับ ซึ่ง แบบนี้จะสูญเสียกำลังได้มากกว่าคลัชธรรมดาครับ
ดังนั้น จะเห็นว่า ระบบน้ำมันเกียร์ในเกียร์ออโต้ สำคัญมากๆนะครับ และควรจะใช้ตามเบอร์ที่ทางผู้ผลิตเค้า recommend ว่าให้ใช้เบอร์ไหน อย่าละเลยนะครับเรื่องนี้
โดยปกติ เกียร์ออโต้ เมื่อถึงรอบที่เหมาะสม ระบบจะทำการเปลี่ยนเกียร์ให้เองครับ
แต่โดยตามปกติโดยทั่วไป จุดที่จะประหยัดน้ำมันก็คือ จุดที่เราใช้เกียร์ตำแหน่งสูงสุด ในความเร็วและรอบต่ำที่สุดที่มีกำลังฉุดลากได้ตามปกติ ไม่ต้องกดคันเร่งลึกมากครับ
โดยปกติจะเปลี่ยนเกียร์ที่ 2600 - 2800 รอบนะครับ ถ้าเหยียบแบบแช่เอาไว้นะครับ
แต่ว่า ถ้าต้องการให้เกียร์เปลี่ยนเร็วขึ้น และไม่ทำให้ลากรอบมากเกินไป ทำง่ายๆครับ คือ กดไป ยกไป ฟังดูอาจจะงงสำหรับมือใหม่เกียร์ออโต้นะครับ
ปกติ ถ้าเราไม่ยกเท้า เอาไว้ตำแหน่งเดิมนั้น เกียร์จะเป็นตัวตัดสินใจเองว่า จะเปลี่ยนที่รอบที่ระบบมันทำการเซ็ทเอาไว้ให้เอง ซึ่ง บางทีอาจได้รอบที่สูงกว่าปกตินะครับ
แต่ว่า ถ้าเรายกคันเร่งขึ้นสักนิด เมื่อถึงรอบรอบหนึ่ง เช่น 2300 รอบ ค่อยๆกดเร่งรอบไปเรื่อย จนได้ความเร็วที่เหมาะสม แล้วเรายกเท้าขึ้นเพียงเล็กน้อย แบบนี้ เกียร์จะทำการ shift ขึ้นให้เอง เหมือนกับว่า เราไปสั่งมันอีกทีว่า รอบเท่านี้ เราพอแล้วนะ แล้วรอบขนาดนี้ก็เพียงพอต่อการส่งกำลังต่อไปเกียร์ถัดไปได้ระดับหนึ่ง
หมายถึง เราจะประหยัดไปได้ 300 - 500 รอบตอ่การเปลี่ยนเกียร์ 1 ครั้ง
ฟังดูอาจจะงงอีกแล้วครับ ผมสมมติง่ายๆ คนถือของหนัก 5 กิโล กับคนถือของหนัก 7 กิโล พลังงานที่ใช้ในการถือของหนัก 7 กิโล ย่อมมากกว่าครับ ก็หมายความว่า จะเปลืองน้ำมันมากกว่า ประมาณนี้เป็นต้น
ซึ่ง น้ำมันที่ใช้ไป ก็จะลดลงน้อยกว่า ระยะทางที่ได้ก็จะมากกว่าครับ วิธีนี้ ผมใช้กับรถเกียร์ออโต้ของผมแล้วใช้ได้ผลจริงครับ
ส่วนการที่มีเกียร์แบบ 2 ระบบแบบนี้ ยิ่งตอนใช้เมื่อเปลี่ยนโหมดเป็น M ผมว่า ยิ่งควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ได้เองที่สะดวกและกะประมาณรอบเครื่องยนต์เองได้นะครับ
ทดสอบเองได้เลยครับ
ส่วนวิธีที่ช่วยประหยัดน้ำมันได้อีกทางคือ
- เลี่ยงการจอดรถไว้ที่ลาดชันมากๆ เพราะตอนจะออกตัว ต้องใช้เชื้อเพลิงปริมาณมากกว่าเพื่อสร้างแรงบิทกับรอบที่สูงขึ้นเพื่อฉุดตัวรถให้ไปข้างหน้าได้ เปลืองขึ้นอีกครับ
- เช็คความสะอาดของไส้กรองอากาศ และ แรงดันลมยางให้เหมาะสม ควรจะวัดแรงดันตอนยางเย็นนะครับ แล้วก็ให้เหมาะสมกับน้ำหนักบรรทุกด้วยเช่นกัน ซึ่ง ควรซื้อเกจ์วัดความดันที่เชื่อถือได้ติดไว้ในรถสักอันนะครับ จะได้เอาไว้เช็คได้ตอนเช้าๆ ผมเอง 2 - 3 วันเช็คครั้งนึงครับ ถ้าลมอ่อนลงก็แวะเติมปั๊ม ปตท.ที่เป็นที่เติมแบบออโต้ครับ สะดวกและแม่นยำดี
- กะระยะ คาดการณ์ข้างหน้าไว้ก่อนนะครับ จะได้ไม่ต้องไปเหยียบคันเร่ง อาศัยแรงเฉื่อยของรถโดยไม่ต้องเหยียบเบรคให้มาก จะได้ไม่เปลืองผ้าเบรคด้วยครับ
- ออกตัวนิ่มๆ กดเนียนๆ ค่อยๆไปครับ แต่ว่า ทั้งนี้ทั้งนั้น ให้เหมาะสมกับปริมาณรถนะครับ จังหวะรีบก็จำเป็นต้องกด แต่ถ้าโล่งๆ แล้วไม่ได้เร่งรีบอะไร ก็จะช่วยให้เซฟเงินในกระเป๋าได้เลยครับ
หวังว่าเรื่องเล็กๆน้อยๆเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ได้นะครับ
การขับรถเกียร์ออโต้ให้ประหยัดน้ำมัน 2
วิธีนี้ผมทดสอบด้วยตัวเองมาแล้ว ขับทางไกลหรือในเมือง กินน้ำมันไม่แตกต่างกันเลย
หรือต่างกันก็ไม่เกิน5-10% การใช้เข็มบอกรอบเครื่องเป็นตัวกำหนดการใช้น้ำมันได้ เป็นอย่างดี
ที่ความเร็วรอบ 2000 - 2500 จะช่วยประหยัดน้ำมัน แต่ที่ความเร็วรอบ 1200 - 2000 จะช่วย
ประหยัดน้ำมันได้มากจริงๆ
1.การออกตัวขณะจอดนิ่งเป็นตัวที่ทำให้ใช้น้ำมันมากที ่สุด ไม่จำเป็นเลยที่จะต้องออกตัวอย่าง
รวดเร็วเพื่อเอาใจคันหลัง พยายามอย่าให้รอบเกิน 2500 ดีที่สุด
2.ต้องคอยสังเกตการเปลี่ยนเกียร์ของระบบว่าจะเปลี่ยน ที่ความเร็วรอบเท่าไหร่ ส่วนมากจะเปลี่ยนที่
>3000 รอบ แต่ถ้าเราไม่เร่งเครื่องอย่างรุนแรง การเปลี่ยนเกียร์จะอยู่ที่รอบต่ำกว่านี้ได้ แต่ต้องใช้
ระยะทางมากกว่า แต่โดยรวมประหยัดกว่ามาก
3.ควรขับที่ความเร็วที่มีการเปลี่ยนเกียร์ เช่น 20, 40, 60 หรือ 80 เพราะเป็นจุดที่มีความเร็วรอบเครื่อง
ต่ำที่สุด นั่นคือใช้น้ำมันน้อยที่สุด แต่ต้องระวังว่าควรจะให้มีการเปลี่ยนเกียร์ไปแล้ว เพราะก่อนที่จะมีการ
เปลี่ยนเกียร์ ความเร็วรอบจะสูงสุด กินน้ำมันมากที่สุด
4.ควรใช้แรงเฉื่อยของรถให้เป็นประโยชน์ การใช้เกียร์ว่างหรือรู้จักยกเท้าออกจากคันเร่งบ้าง จะช่วยลดการ
ใช้น้ำมันได้อย่างไม่น่าเชื่อ เช่น การที่มีสี่แยกสัญญาณไฟอยู่ข้างหน้าเมื่อเห็นแล้วว่า เร่งเครื่องไปก็ไม่มี
ประโยชน์ ก็ควรปลดเป็นเกียร์ว่างให้รถวิ่งไปเองก็ได้ จะสังเกตเห็นได้เลยว่าความเร็วรอบตกไปอยู่ที่
รอบเดินเบาทันที ประหยัดสุดๆเลยครับ
5.การเหยียบเบรคบ่อยๆหรือรุนแรงเป็นตัวบอกว่าคุณใช้น ้ำมันเกินความจำเป็นไปแล้ว สังเกตได้เลย
ปรับเปลี่ยนทัศนคติของการขับเสียใหม่ก็ไม่สายครับ
6.หลีกเลี่ยงการหยุดในที่ลาดเอียง เปลืองทั้งน้ำมันและผ้าเบรค
7.ไม่ควรขับรถชิดคันหน้าเกินไป เพราะทำให้ความเร็วไม่สม่ำเสมอ รอบเครื่องจะขึ้นลงตลอดเวลา ก็ต้อง
ใช้น้ำมันทั้งนั้นแหละครับ
8.รู้จักขับที่เลนซ้ายบ้างก็ดี ไม่ต้องคอยหนีคันหลังจนไม่สามารถควบคุมความเร็วรถได้ ก็ต้องใช้น้ำมันเกิน
ความจำเป็นอีกนั่นแหละ
9.ข้อสุดท้ายการใช้รถอย่างไม่รู้คุณค่าของน้ำมันแสดง ถึงคุณตกสมัยไปมาก เหมือนคนสูบบุหรี่ที่ไม่ใช่ของ
เท่ห์อีกต่อไป
ก็อปมาจากบทความของคุณ โฆษิต คับ
http://topicstock.pantip.com/sinthor.....;/I3581866.html
22/7/2012, 6:46 am by arm_anfield
» SCEPTER-PRO :: รับออกแบบเครื่องกล,รับออกแบบเครื่องจักร,Tool,Part,Automation
5/10/2011, 10:39 am by scepter-pro
» สุพรรณบ้านข้า
28/7/2011, 12:28 pm by xXx_ME46
» รับสมัครงานที่บริษัท นิเด็คอิเล็คทรอนิกส์ ธัญญะ คลอง 7 และ คนทำงานหาอาชีพเสริมได้รายดี
11/7/2011, 4:49 pm by ผู้มาเยือน
» อยากหางานใหม่
23/5/2011, 12:18 pm by ผู้มาเยือน
» ข้ออมูลเบื้องต้น ในการจัดสร้างพระ ถวายวัด จาก คุณ รังสรรค์ สุวรรณ
15/4/2011, 11:25 am by xXx_ME46
» หางานทำด่วนๆ
18/3/2011, 6:10 pm by ผู้มาเยือน
» Hello......
17/2/2011, 11:30 pm by magazero1
» อยู่ไหนกันไม่เห็นเข้ามามั่งเลย
9/2/2011, 12:04 pm by cheat me 50